ชื่อ-สกุล นางสาวปฏิทิน ธนสีลังกูร
ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย -
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามหาสารคาม
สอนรายวิชา
1. เทคนิคปฏิบัติการทางเคมี ม.5
2. เคมีเพิ่มเติม ม.6
3. การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอ IS ม.5
4. ชุมนุม บอร์ดเกมรวมพล
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้น ม.6/5
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน.....17...ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา เคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน.......9..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา เคมี 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน.......6..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอ IS จำนวน.......2..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม "บอร์ดเกมสร้างสรรค์" จำนวน.......2..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ....8..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน......4.......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน........4.....ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 34 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน.....18...ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา เคมี ระดับชั้น ม.6 จำนวน.......12..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา เทคนิคปฏิบัติการทางเคมี จำนวน.......2..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและนำเสนอ IS จำนวน.......2..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม "บอร์ดเกมรวมพล" จำนวน.......2..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ....8..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน......4.......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน........4.....ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 34 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ครูผู้ช่วย (ยังไม่มีวิทยฐานะ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์และแก้ไขปัญหาการจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่อง อาหาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ร่วมกับเกมแบบผสมผสาน
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์กายภาพจะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะทั้งสามด้านคือ ด้านพุทธิพิสัย ด้านทักษะพิสัย และด้านจิตพิสัย ดังนั้นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์กายภาพที่ดี นอกจากจะมุ่งให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้พื้นฐานของรายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพแล้ว ผู้เรียนควรที่จะได้รับการฝึกทำกิจกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ ความเข้าใจในพื้นฐานของวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่ได้มาจากการสังเกต ทดลอง หรือทำกิจกรรมด้วยตัวเองกับคำอธิบายจากทฤษฎี เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2557, หน้า 2-3)
สภาพปัญหาของผู้เรียน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในภาคการเรียนที่ 1/2567 พบว่าคุณภาพการศึกษาอยู่ในระดับที่ต้องปรับปรุง เนื่องจากนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ต่ำ เนื่องด้วยการจัดการเรียนรู้ไม่ได้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การสอนที่เน้นบรรยาย ไม่ค่อยให้นักเรียนเรียนสืบเสาะหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง ทำให้เป็นเพียงการรับความรู้ฝ่ายเดียวผู้เรียนไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน ทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย และไม่ให้ความสำคัญกับวิชาวิทยาศาสตร์ จากสภาพปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนในรายวิชาดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพและไม่บรรลุเป้าหมายของหลักสูตรสถานศึกษา
ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าท้าย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่อง อาหาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ร่วมกับเกมแบบผสมผสานเป็นสื่อนวัตกรรมในการเรียนการสอนรายวิชารายวิชาเคมีพื้นฐาน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2567
2.2 วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จัดทำโครงสร้างรายวิชา คำอธิบายรายวิชา และจัดทำหน่วยการเรียนรู้
2.3 ศึกษาทฤษฎี หลักการ แนวคิด ทักษะการคิดวิเคราะห์และขั้นตอนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ร่วมกับเกมแบบผสมผสาน
2.4 นำแผนการจัดการเรียนรู้ เสนอผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตรวจสอบวิธีการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมครอบคลุมในด้านเนื้อหา (Content validity) และโครงสร้าง (Construct) ความเหมาะสมของภาษาและศึกษา การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ร่วมกับเกมแบบผสมผสาน เรื่อง อาหาร พร้อมนำแบบประเมินนำไปปรับปรุงตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
2.5 นำแผนการจัดการเรียนรู้ ไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อวิเคราะห์ปรับปรุงให้เหมาะสมถูกต้องตามหลักวิชาการ
2.6 นำการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ร่วมกับเกมแบบผสมผสาน ไปใช้สอนในรายวิชาเคมีพื้นฐาน เรื่อง อาหาร บูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้กับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษ 2567 ทั้งในรูปแบบ ONLINE หรือ ONSITE โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบท
2.7 บันทึกผลการเรียนและทักษะการปฏิบัติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เกิดขึ้นจาก การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่อง อาหาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ร่วมกับเกมแบบผสมผสานและสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริม สำหรับใช้แก้ไขปัญหาการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ศึกษา และทำการทดสอบใหม่ จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
2.8 บันทึกข้อมูลคะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อประเมินการเรียนรู้ นำข้อมูลที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้นักเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 70 ที่เรียนรายวิชาเคมีพื้นฐาน เรื่อง อาหาร โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ร่วมกับเกมแบบผสมผสานมีผลคะแนนเฉลี่ยทางการเรียนและมีคะแนนเฉลี่ยทักษะการปฏิบัติสูงขึ้น ตามตัวชี้วัดในสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย ความสำคัญ ความเสี่ยง มีทักษะการปฏิบัติการแก้ปัญหาทาง วิชาเคมีพื้นฐาน นักเรียนสามารถฝึกปฏิบัติแนวทางการเชื่อมโยงความรู้ใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ และมีความพึงพอใจต่อการเรียนในระดับมากที่สุด
แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อตกลงในการพัฒนางานสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
นางสาวปฏิทิน ธนสีลังกูร